อาจารย์พิศาล เชาวนปรีชา ตำนานแห่งคาถาคงกระพัน พุทแลแลฯ ทายาทชั้นที่ ๖ ของพระยาพิชัยดาบหัก ผู้สืบทอดวิชาดาบของพระยาพิชัยดาบหัก
|
||||||||||||||||
![]() ![]() |
||||||||||||||||
![]() ส่งข้อความ
|
||||||||||||||||
ชื่อร้านค้า
|
โชติช่วง By ณัฐ อัมพวา | |||||||||||||||
โดย
|
ณัฐ อัมพวา | |||||||||||||||
ประเภทพระเครื่อง
|
พระเหรียญปั๊ม | |||||||||||||||
ชื่อพระ
|
อาจารย์พิศาล เชาวนปรีชา ตำนานแห่งคาถาคงกระพัน พุทแลแลฯ ทายาทชั้นที่ ๖ ของพระยาพิชัยดาบหัก ผู้สืบทอดวิชาดาบของพระยาพิชัยดาบหัก |
|||||||||||||||
รายละเอียด
|
อาจารย์พิศาล เชาวนปรีชา ตำนานแห่งคาถาคงกระพัน พุทแลแลฯ ทายาทชั้นที่ ๖ ของพระยาพิชัยดาบหัก ผู้สืบทอดวิชาดาบของพระยาพิชัยดาบหัก อาจารย์พิศาล เชาวนปรีชา (อาจารย์ฟุ้ง) เป็นต้นสกุล เชาวนปรีชา ซึ่งพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน ประทานชื่อสกุลนี้ให้ขณะที่อาจารย์พิศาล เชาวนปรีชา เป็นนายสถานีรถไฟชุมทางบ้านดารา อาจารย์พิศาล เชาวนปรีชา เดิมชื่อนายฟุ้ง เกิดเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๓๘ เป็นบุตรนายภู่ คนบ้านหน้าพระธาตุ อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ กับนางเข็ม คนตำบลดารา อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ อาจารย์ฟุ้ง เชาวนปรีชา เรียนจบชั้นมูลบทบรรพกิจ นอกจากเรียนมูลบทบรรพกิจแล้วอาจารย์ฟุ้งยังได้เรียนภาษาบาลีและขอม จากวัดมหาธาตุจนแยกฉาน อาจารย์ฟุ้งจึงไปสมัครเข้ารับราชการที่อำเภอพิชัย นายอำเภอพิชัย จะให้ดำรงตำแหน่งปลัดซ้าย แต่อาจารย์ฟุ้งอยากเป็นปลัดขวา เลยไม่รับตำแหน่ง ต่อมาขุนธารีรัฐเขต มาดำรงตำแหน่งนายสถานีรถไฟบ้านดารา เห็นอาจารย์ฟุ้งเป็นคนมีการศึกษาดี เก่งเรื่องหนังสือจึงชักชวนให้เข้ามารับราชการรถไฟ อาจารย์ฟุ้งเคยดำรงตำแหน่งนายสถานีรถไฟหลายแห่ง เช่น สถานีรถไฟปางต้นผึ้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ นายสถานีรถไฟคลองปลากด อำเภอปากน้ำโพ จังหวัดนครสวรรค์ ที่สถานีคลองปลากดนี้ อาจารย์พิศาลได้สมรสกับนางถนอม สีกะอำไพ และที่นี่ท่านยังได้พบอาจารย์คนสำคัญคือเสือยอด ซึ่งในเวลาต่อมาเสือยอดหรือนายยอดได้เป็นอาจารย์ถ่ายทอดวิชาคงกระพันให้อาจารย์ฟุ้งด้วย (ท่านเป็นศิษย์ฆราวาส คนสำคัญอีกท่านหนึ่ง ของ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องของ วิชาอาคม แขนงต่างๆ) อาจารย์ฟุ้งได้ใช้วิชาคงกระพันนี้ช่วยเหลือชาวบ้านหลายครั้งจนได้รับยกย่องให้เป็นอาจารย์คงกระพันตั้งแต่นั้นและสืบทอดมาถึงลูกหลานจนถึงปัจุบัน เมื่อย้ายไปเป็นนายสถานีรถไฟที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อาจารย์ฟุ้งได้ประลองฝีมือกับนักเลงเจ้าถิ่นผู้มีฝีมือ ท่านได้รับชัยชนะในครั้งนั้นด้วยวิชาดาบสองมือของพระยาพิชัยดาบหัก ท่านได้มีโอกาสแสดงอานุภาพของวิชานี้ โดยใช้ลูกไม้ที่ชื่อ “ฟันทีเดียวให้ตาย” ทำให้ได้รับชัยชนะในเวลาอันรวดเร็ว จากเหตุการณ์ในครั้งนี้บรรดาลูกหลานทุกคนมีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง เมื่อท่านมาเป็นนายสถานีรถไฟชุมทางบ้านดารา ภรรยาของท่านได้ให้กำเนิดบุตรชายคนที่ ๓ คือ พ.ต.ต.สงวน เชาวนปรีชา ผู้ถ่ายทอดชีวประวัติอาจารย์พิศาล เชาวนปรีชา(อาจารย์ฟุ้ง) ไว้อย่างละเอียด โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์หัสดินทร์ เชาวนปรีชา หลานชายเป็นผู้บันทึก ที่บ้านดารานี้มีคนสนใจมาเรียนวิชาคงกระพัน จากอาจารย์ฟุ้งเป็นจำนวนมาก จากสถานีรถไฟชุมทางบ้านดารา อาจารย์ฟุ้งได้ย้ายไปรับราชการอีกหลายแห่ง สุดท้ายคือ สถานีรถไฟพิษณุโลก ในขณะนั้น พระยากัลยาณวัฒน์วิสิฐ เป็นเจ้ากรมรถไฟมีความสนิทสนมกันมากด้วยอาจารย์ฟุ้งเป็นคนชอบผจญภัย และคิดริเริ่มสิ่งใหม่ๆอยู่เสมอ ต่อมาอาจารย์ฟุ้งได้ลาออกจากการเป็นข้าราชการกรมรถไฟ มาประกอบอาชีพส่วนตัวที่บ้านท่าเสา จังหวัดอุตรดิตถ์ ช่วงนั้นอาจารย์ฟุ้งมีบุตรชายเพิ่มขึ้นอีก ๑ คน คือ อาจารย์ดุสิต เชาวนปรีชา (ผู้ก่อตั้งสำนักดาบพิชัยรณยุทธ์) บิดาของ ผ.ศ.หัสดินทร์ เชาวนปรีชา(อาจารย์ใหญ่สำนักดาบพิชัยรณยุทธ์ ในปัจจุบัน) ต่อมาจารย์ฟุ้ง ท่านอพยพไปอยู่บ้านท่าค้อ อำเภอเมือง จังหวัดหนองคายและเปลี่ยนชื่อจากฟุ้งมาเป็นพิศาล และได้ย้ายจากอีสานมุ่งหน้าลงใต้ อาจารย์พิศาลย้ายลงไปอยู่ปัตตานี ที่เมืองปัตตานีอาจารย์พิศาลได้ถ่ายถอดวิชาดาบวิชามวยและวิชาคงกระพันให้กับบุตรชายคนเล็ก คือ อาจารย์ดุสิต(ส.ต.อ.ดุสิต) เชาวนปรีชาจนหมดสิ้น กระทั่งเมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ ๒ อาจารย์พิศาล จึงพาครอบครัวอพยพมาอยู่อุตรดิตถ์อีกครั้ง หลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ อาจารย์พิศาลหันไปสนใจประกอบธุรกิจทำไม้ที่จังหวัดลำปาง มีโรงเลื่อยไม้เป็นของตนเองหลายโรง มีรถลากไม้กว่า ๓๐ คัน แต่ก็ไม่ทิ้งความเป็นอาจารย์คงกระพัน มีบุคคลสำคัญมาฝากตัวเป็นลูกศิษย์หลายคน เช่น จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์, พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ (อดีตอธิบดีกรมตำรวจ) ,หลวงเสรีเริงฤทธิ์(อธิบดีกรมรถไฟ),และพลเอกหลวงกัมปนาทแสนยากร(ไสว แสนยากร) เป็นต้น ที่จังหวัดลำปาง อาจารย์พิศาล ยังได้พบกับ คุณพระศรีพัฒนากร (ท้าย วิชัยขัทคะ) ผู้เป็นทายาทพระยาพิชัยดาบหัก ท่านได้เขียนเอกสารรับรองว่านายพิศาล เชาวนปรีชา เป็นทายาทคนหนึ่งในสายสกุลของพระยาพิชัยดาบหัก บั้นปลายชีวิตอาจารย์พิศาล เชาวปรีชา ได้หันมาสนใจศึกษาการเรียนสมาธิกับท่านพ่อลี วัดอโศการาม จังหวัดสมุทรปราการ,หลวงพ่อสมบุญ วัดเขาพระ อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี จนสามารถถอดจิตออกจากร่างได้ และหมั่นทำนุบำรุงกิจการศาสนา นำไม้จากปางไม้ลำปางมาถวายวัดธรรมาธิปไตย วัดเกษมจิตตาราม อำเภอเมือง จังวัดอุตรดิตถ์ เป็นจำนวนมาก อาจารย์พิศาล เชาวนปรีชา ได้ถึงแก่กรรมด้วยอาการสงบ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๘ สิริอายุได้ ๖๐ ปี อาจารย์ดุสิต เชาวนปรีชา ได้เล่าให้ฟังว่า อาจารย์พิศาล เคยปรารภว่าวิชาดาบของสกุลเรานี้เป็น วิชาดาบนักรบ ให้เรียนไว้เพื่อป้องกันตัวเองมิให้ใครมาข่มเหงรังแกใคร จงถ่ายทอดให้ถึงลูกหลานและต้องเรียนคงกระพันหนังเหนียวด้วย ท่านยังเน้นว่า “จำไว้เวลาสู้กัน ฟันทีเดียวให้ตาย“ และอย่าเอาวิชาของปู่ย่าตาทวดไปข่มเหงรังแกผู้อื่น Cr.หนังสือบนเส้นทางเกียรติยศของพระยาพิชัยดาบหัก วรพรรณ สุวรรณชื่น Cr.ภาพ กองศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ |
|||||||||||||||
ราคา
|
3,999 | |||||||||||||||
เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ
|
0969054532 | |||||||||||||||
ID LINE
|
Nutmonk555 | |||||||||||||||
จำนวนการเข้าชม
|
45 ครั้ง | |||||||||||||||
บัญชีธนาคารที่ใช้ยืนยันตัวตน
|
ยังไม่ส่งข้อมูล
|
|||||||||||||||
|